ทำ HiFu เจ็บมากไหม

ทำ HiFu เจ็บมากไหม

โดย watcharin.c@deccogroup.com
20 Sep 2025
ทำ HiFu เจ็บมากไหม การทำ Hifu (High-Intensity Focused Ultrasound) คือเทคนิคเสริมความงามที่ใช้ คลื่นเสียงอัลตราซาวด์ความเข้มข้นสูง ยิงลงไปใต้ผิวหนังในตำแหน่งที่ต้องการ เพื่อยกกระชับ ฟื้นฟูคอลลาเจนใหม่และทำให้ผิวหดตัว ผลลัพธ์ที่ได้คือ ผิวยกกระชับ ลดริ้วรอย กรอบหน้าชัดขึ้น โดยไม่ต้องผ่าตัด แม้ว่า HIFU จะไม่ก่อให้เกิดบาดแผล แต่หลายคนก็มักสงสัยว่า“ทำไฮฟู่เจ็บไหม?”บทความนี้จะมาอธิบายระดับความเจ็บ ปัจจัยที่มีผล วิธีลดความเจ็บ และแชร์ประสบการณ์จริงจากผู้ที่เคยทำ

ความเจ็บ ของการทำ HIFU

สามารถแบ่งออกได้ตามระดับความรู้สึกของคนไข้ ซึ่งแตกต่างกันไปตาม ตำแหน่งที่ทำ, ระดับพลังงานที่ใช้, เครื่องมือ, และอดทนของแต่ละคน แต่โดยทั่วไปแพทย์มักอธิบายความรู้สึกไว้เป็น 3 ระดับหลัก ๆ ดังนี้

ระดับความเจ็บของการทำไฮฟู่


เจ็บน้อย (Mild Pain / Tingling)

  • รู้สึกเป็นความอุ่น ๆ หรือจิ๊ด ๆ คล้ายหนังยางดีดเบา ๆ
  • มักเกิดบริเวณที่มีไขมันมาก เช่น แก้ม หรือใต้คาง

เจ็บปานกลาง (Moderate Pain)

  • รู้สึกตึง ๆ ร้อน ๆ หรือจี๊ดลึก ๆ ลงไปถึงชั้นกล้ามเนื้อ
  • บางคนอาจมีอาการเสียว ๆ บริเวณที่ใกล้กระดูก เช่น กราม หน้าผาก

เจ็บมาก (Strong Pain / Sharp Pain)

  • รู้สึกเจ็บชัดเหมือนมีแรงสะท้อนจากใต้ผิว
  • มักเกิดในจุดที่เนื้อบางหรือใกล้เส้นประสาท เช่น รอบริมฝีปาก หน้าผาก ใต้คางบางคน
  • ระดับนี้พบได้แต่ไม่ใช่ทุกคน ขึ้นอยู่กับความไวต่อความเจ็บ

อาการหลังทำ hifu หน้าจะบวมเล็กน้อย และจะค่อย ๆ ยุบบวมไปเอง ถ้าใช้เครื่องทำ Hifu เกรดดี พลังงานสูง เช่น ยิงเน้นปริเวณ แก้มส่วนล่างเพื่อยกกระชับแก้มที่หย่อนคล้อย จะบวม 1-2 สัปดาห์

  • ส่วนใหญ่ Hifu อยู่ที่ 2–4/10 →เจ็บจี๊ด ๆ แต่ทนได้
  • บางจุดอาจขึ้นไปที่ 5–6/10 เช่น หน้าผากหรือคาง
  • 7/10 ขึ้นไป พบไม่บ่อย มักเกิดในคนที่ไวต่อความเจ็บ หรือใช้พลังงานสูง

ปัจจัยที่ส่งผลต่อความเจ็บของไฮฟู

ปัจจัยที่ส่งผลต่อความเจ็บของการทำไฮฟู่ Hifu


ตัวบุคคล :

  • ความทนทานต่อความเจ็บแตกต่างกัน
  • ผิวบาง/มีไขมันน้อย → เจ็บมากกว่าผิวหนา

ตำแหน่งที่ทำ:

  • ใกล้กระดูกหรือเส้นประสาท เช่น หน้าผาก คาง → เจ็บมากกว่าแก้ม
  • การตั้งค่าพลังงานและจำนวนช็อต :
  • ยิงแรงและจำนวนมาก → เจ็บมากขึ้น แต่ผลลัพธ์ชัดกว่า

คุณภาพเครื่องและเทคนิคแพทย์ :

เครื่องมาตรฐาน + ผู้ทำชำนาญ → เจ็บน้อยกว่า

สภาพร่างกายและอารมณ์ :

หากนอนน้อย เครียด หรืออยู่ในช่วงมีประจำเดือน → จะไวต่อความเจ็บมากขึ้น

วิธีลดความเจ็บก่อนและหลังทำไฮฟู

ก่อนทำ

  • ทายาชา 30–45 นาที
  • ดื่มน้ำมากพอ + ใช้มอยส์เจอร์ไรเซอร์ประจำ
  • งดคาเฟอีน แอลกอฮอล์ บุหรี่
  • งดใช้เรตินอล, AHA, BHA 1 สัปดาห์
  • พักผ่อนให้เพียงพอ

ระหว่างทำ

  • ใช้เจลเย็นช่วยลดความร้อน
  • หายใจลึก ๆ ช่วยผ่อนคลาย
  • แจ้งแพทย์หากเจ็บมากเกินไป เพื่อปรับพลังงาน

หลังทำ

  • ประคบเย็นภายใน 24 ชม.
  • ทาครีมบำรุงที่อ่อนโยน
  • งดออกแดดจัด ซาวน่า นวดหน้า อย่างน้อย 1 สัปดาห์
  • ทากันแดด SPF 30+ ทุกวัน
  • งดสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์ 2 สัปดาห์



ผู้ใช้ Pantip :

บางคนบอกว่า “เจ็บจี๊ด ๆ แต่พอทนได้” โดยเฉพาะถ้าใช้ยาชา

ไม่ทายาชาและยิงหลายร้อยช็อต ทำให้เจ็บมาก


รีวิวคลินิก :

ส่วนใหญ่บอกว่า “เจ็บ แต่ทนได้” และยิ่งเจ็บหน่อยผลลัพธ์ก็มักชัดเจนขึ้น

รีวิวต่างประเทศ (Reddit / TikTok) :

เจ็บที่สุดในชีวิต โดยเฉพาะถ้าไม่ใช้ยาชา

คุ้มค่า เพราะผลลัพธ์ยกกระชับเห็นได้จริง



สรุป

การทำ HIFU มักมีความเจ็บอยู่ในระดับปานกลาง ประมาณ 2–6 จาก 10 ซึ่งส่วนใหญ่คนไข้สามารถทนได้ ความรู้สึกเจ็บมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นสภาพผิวของแต่ละคน ระดับพลังงานที่ใช้ ตำแหน่งที่ทำ ไปจนถึงคุณภาพของเครื่องและเทคนิคของแพทย์ผู้ทำ หากมีการเตรียมตัวล่วงหน้า เช่น การพักผ่อนให้เพียงพอ ดื่มน้ำมาก ๆ หรือทายาชาก่อนทำ รวมถึงการดูแลหลังทำอย่างเหมาะสม ความรู้สึกเจ็บก็จะลดลงได้มากทีเดียว จาก ประสบการณ์ของคนที่เคยทำจริง ส่วนใหญ่จะบอกตรงกันว่า แม้ระหว่างทำจะมีความรู้สึกอยู่บ้าง แต่ผลลัพธ์ที่ได้ ทั้งผิวที่กระชับขึ้นและกรอบหน้าที่ชัดเจนขึ้น ทำให้หลายคนรู้สึกว่า“คุ้มค่า”

แชร์:

Author

w
creative

watcharin.c@deccogroup.com

contact@healthhub.com

Related posts