
หลังทำเลเซอร์ต้องดูแลอย่างไร
สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงหลังทำเลเซอร์&nb...
สามารถแบ่งออกได้ตามระดับความรู้สึกของคนไข้ ซึ่งแตกต่างกันไปตาม ตำแหน่งที่ทำ, ระดับพลังงานที่ใช้, เครื่องมือ, และอดทนของแต่ละคน แต่โดยทั่วไปแพทย์มักอธิบายความรู้สึกไว้เป็น 3 ระดับหลัก ๆ ดังนี้
อาการหลังทำ hifu หน้าจะบวมเล็กน้อย และจะค่อย ๆ ยุบบวมไปเอง ถ้าใช้เครื่องทำ Hifu เกรดดี พลังงานสูง เช่น ยิงเน้นปริเวณ แก้มส่วนล่างเพื่อยกกระชับแก้มที่หย่อนคล้อย จะบวม 1-2 สัปดาห์
เครื่องมาตรฐาน + ผู้ทำชำนาญ → เจ็บน้อยกว่า
หากนอนน้อย เครียด หรืออยู่ในช่วงมีประจำเดือน → จะไวต่อความเจ็บมากขึ้น
ผู้ใช้ Pantip :
บางคนบอกว่า “เจ็บจี๊ด ๆ แต่พอทนได้” โดยเฉพาะถ้าใช้ยาชา
ไม่ทายาชาและยิงหลายร้อยช็อต ทำให้เจ็บมาก
รีวิวคลินิก :
ส่วนใหญ่บอกว่า “เจ็บ แต่ทนได้” และยิ่งเจ็บหน่อยผลลัพธ์ก็มักชัดเจนขึ้น
รีวิวต่างประเทศ (Reddit / TikTok) :
เจ็บที่สุดในชีวิต โดยเฉพาะถ้าไม่ใช้ยาชา
คุ้มค่า เพราะผลลัพธ์ยกกระชับเห็นได้จริง
การทำ HIFU มักมีความเจ็บอยู่ในระดับปานกลาง ประมาณ 2–6 จาก 10 ซึ่งส่วนใหญ่คนไข้สามารถทนได้ ความรู้สึกเจ็บมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นสภาพผิวของแต่ละคน ระดับพลังงานที่ใช้ ตำแหน่งที่ทำ ไปจนถึงคุณภาพของเครื่องและเทคนิคของแพทย์ผู้ทำ หากมีการเตรียมตัวล่วงหน้า เช่น การพักผ่อนให้เพียงพอ ดื่มน้ำมาก ๆ หรือทายาชาก่อนทำ รวมถึงการดูแลหลังทำอย่างเหมาะสม ความรู้สึกเจ็บก็จะลดลงได้มากทีเดียว จาก ประสบการณ์ของคนที่เคยทำจริง ส่วนใหญ่จะบอกตรงกันว่า แม้ระหว่างทำจะมีความรู้สึกอยู่บ้าง แต่ผลลัพธ์ที่ได้ ทั้งผิวที่กระชับขึ้นและกรอบหน้าที่ชัดเจนขึ้น ทำให้หลายคนรู้สึกว่า“คุ้มค่า”
สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงหลังทำเลเซอร์&nb...