วิธีดูแลสุนัขและแมวแก่ให้มีอายุยืนยาว

วิธีดูแลสุนัขและแมวแก่ให้มีอายุยืนยาว

โดย watcharin.c@deccogroup.com
20 Sep 2025
เมื่อสัตว์เลี้ยงเข้าสู่วัยสูงอายุ การดูแลให้เหมาะกับการเปลี่ยนแปลงของร่างกายและจิตใจเป็นสิ่งสำคัญ จะช่วยให้น้องหมาและน้องแมวยังมีชีวิตที่แข็งแรง มีความสุข แม้จะเผชิญปัญหาสุขภาพจากอายุก็ตาม บทความนี้จะแนะนำการดูแลสัตว์เลี้ยงสูงวัยเพื่อช่วยให้เจ้าของเตรียมพร้อมและจัดการได้อย่างถูกต้อง

การเปลี่ยนแปลงตามอายุ

   เมื่อสัตว์เลี้ยงเข้าสู่วัยชรา (7 ปีขึ้นไป) จะเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงทั้งทางร่างกายและจิตใจ ซึ่งส่งผลต่อคุณภาพชีวิต การสังเกตพฤติกรรมจึงเป็นสิ่งสำคัญในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงนี้

อาการที่พบได้ในน้องหมาและน้องแมวสูงวัย 

  • การเคลื่อนไหวและข้อต่อ การเสื่อมสภาพของกระดูกและข้อต่อ ทำให้เคลื่อนไหวช้าลงและมีอาการปวด สัตว์เลี้ยงอาจไม่อยากลุกเดินหรือกระโดดเหมือนเดิม
  • การมองเห็นและการได้ยิน เป็นปัญหาที่พบได้บ่อยในสัตว์สูงวัย ทำให้พวกเขามองไม่เห็นในที่มืดหรือได้ยินเสียงไม่ชัด ตอบสนองช้าลงหรือเกิดความสับสน
  • อวัยวะภายใน เช่น ไต ตับ หรือระบบย่อยอาหารอาจเริ่มทำงานลดลง สัตว์เลี้ยงอาจมีปัญหาการขับถ่าย เช่น ปัสสาวะบ่อยหรือย่อยอาหารยาก
  • การเปลี่ยนแปลงทางร่างกายและน้ำหนัก เช่น อ้วนขึ้นหรือลดน้ำหนัก เนื่องจากการเผาผลาญที่ลดลงหรือปัญหาสุขภาพ
  • การเปลี่ยนแปลงทางพฤติกรรม เช่น ขี้หงุดหงิด หงอยเหงา หรือหลงลืมบ้าง การวิตกกังวลหรือความเครียดจากการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้อาจเกิดขึ้นได้

ตัวอย่างโรคที่พบในน้องหมาและน้องแมวสูงวัย 

  • โรคข้อเสื่อม อาการคือปวดข้อต่อ เดินช้าลง ขยับตัวยาก หรือไม่ยอมกระโดด ควรให้ยาลดอักเสบ เสริมอาหารบำรุงข้อและปรับสภาพแวดล้อมให้เคลื่อนไหวง่าย
  • โรคเบาหวาน สัตว์จะกินน้ำเยอะจนปัสสาวะบ่อย น้ำหนักลดถึงแม้จะกินเก่งหรือดูซึมลงกว่าปกติ ต้องควบคุมอาหารให้เหมาะสมและฉีดอินซูลินตามที่แพทย์สั่ง
  • โรคไตเรื้อรัง จะปัสสาวะบ่อย เบื่ออาหาร น้ำหนักลดหรือบางทีก็ท้องเสีย ควรให้อาหารสูตรโปรตีนต่ำสำหรับโรคไต หรือใช้ยาที่ช่วยปรับสมดุลน้ำกับเกลือแร่
  • โรคหัวใจ มีอาการเหนื่อยง่าย หายใจลำบาก ไอบ่อย หรือบางทีน้ำหนักขึ้นเพราะมีอาการบวมน้ำ ควรให้ยาและควบคุมการออกกำลังกายไม่ให้หักโหม
  • โรคมะเร็ง อาการตอนแรกจะไม่ค่อยชัดเจน กินได้น้อย น้ำหนักลดหรือมีก้อนเนื้อให้คลำเจอได้ การดูแลขึ้นอยู่กับชนิดของมะเร็ง อาจต้องผ่าตัดหรือเคมีบำบัด
  • โรคสมองเสื่อม จะมีอาการหลงลืมหรือแสดงพฤติกรรมแปลกๆ เช่น เดินวน หงุดหงิดหรือมีการนอนที่เปลี่ยนไป ควรฝึกฝนให้มีสมาธิและการตอบสนองของสมอง
  • การสูญเสียการมองเห็น จะมองเห็นไม่ชัดหรือมองไม่เห็นในที่มืด ควรพาไปตรวจตาเป็นประจำและรักษาด้วยยาหรือผ่าตัดถ้าจำเป็น

การปรับการดูแลตามวัยของน้องหมาและน้องแมวสูงอายุ

   เมื่อสัตว์เลี้ยงสูงวัย การดูแลให้เหมาะสมกับการเปลี่ยนแปลงทั้งร่างกายและจิตใจเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้พวกเขามีชีวิตที่ดีและสุขภาพแข็งแรงในช่วงเวลานี้

การดูแลน้องหมาและน้องแมวสูงอายุ

  • อาหารที่เหมาะสม ควรย่อยง่าย มีโปรตีนคุณภาพสูง ไขมันต่ำ และสารอาหารบำรุงข้อกระดูก ถ้าน้องอ้วนควรเลือกอาหารแคลอรี่ต่ำเพื่อควบคุมน้ำหนัก และเพิ่มเส้นใยเพื่อช่วยการย่อยอาหารและขับถ่ายดีขึ้น
  • การออกกำลังกาย เช่น เดินเล่นในช่วงอากาศไม่ร้อน เลือกของเล่นที่ไม่ต้องกระโดดหรือเคลื่อนไหวรุนแรง เพื่อหลีกเลี่ยงความเครียดหรือบาดเจ็บ
  • การดูแลสุขภาพจิต  เจ้าของควรให้ความรักและดูแลอย่างใกล้ชิดเพื่อให้รู้สึกปลอดภัย การใช้ของเล่นที่กระตุ้นสมองก็ช่วยลดความเครียดและเพิ่มความสุขได้
  • การจัดที่นอนและสภาพแวดล้อม ควรจัดที่นอนให้นุ่มและรองรับสรีระเพื่อให้นอนสบายและป้องกันแผลกดทับ ในบ้านควรลดสิ่งกีดขวางและปรับแสงให้เหมาะสมเพื่อช่วยให้พวกเขามองเห็นดีขึ้น
  • ยาและอาหารเสริม ถ้ามีอาการปวดข้อหรือข้อเสื่อม ควรให้กลูโคซามีนและคอนดรอยติน สำหรับสัตว์ที่มีโรคประจำตัว ควรให้ยาตามคำแนะนำของแพทย์และห้ามหยุดยาเอง

ความถี่ในการตรวจสุขภาพสำหรับน้องหมาและน้องแมวสูงอายุ

    การตรวจสุขภาพช่วยให้เจ้าของรู้ทันการเปลี่ยนแปลงในร่างกายน้องหมาแมวและป้องกันโรค โดยเฉพาะสัตว์สูงวัยที่เสี่ยงต่อโรคต่างๆ การตรวจพบปัญหาตั้งแต่แรกจะช่วยให้รักษาทันเวลาและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

การตรวจสุขภาพน้องหมาและน้องแมวสูงอายุ

  • ความถี่ในการตรวจสุขภาพ สำหรับสัตว์เลี้ยงสูงอายุ (7 ปีขึ้นไป) ควรพาไปพบสัตวแพทย์ทุก 6 เดือน เพื่อทำการตรวจร่างกายอย่างละเอียด ซึ่งจะช่วยให้สามารถค้นพบโรคต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้เร็วขึ้น
  • การตรวจการทำงานของอวัยวะภายใน เช่น ไตหรือระบบย่อยอาหาร การตรวจเลือดเพื่อเช็คค่าต่างๆ จะช่วยให้คุณหมอประเมินการทำงานของอวัยวะได้แม่นยำ
  • การตรวจสุขภาพช่องปาก ทุก 6 เดือนจะช่วยป้องกันหินปูนสะสมและโรคเหงือก การดูแลช่องปากยังช่วยลดปัญหาสุขภาพอื่นๆ เช่น การติดเชื้อหรือการสูญเสียฟัน
  • การตรวจสุขภาพตาและการได้ยิน เช่น ต้อกระจกหรือโรคต้อหิน การตรวจทุกปีจะช่วยให้คุณหมอรักษาและจัดการปัญหานี้ได้ทันที
  • การตรวจโรคข้อเสื่อม ช่วยให้เห็นการเสื่อมของกระดูกและข้อต่อ และช่วยบรรเทาอาการปวดได้อย่างมีประสิทธิภาพ

สรุป

    การดูแลน้องหมาและน้องแมวสูงวัยสำคัญมาก เพื่อให้พวกเขามีชีวิตยืนยาวและสุขภาพดี การปรับวิธีเลี้ยงให้เหมาะสมกับการเปลี่ยนแปลงทั้งร่างกายและจิตใจจะช่วยลดปัญหาสุขภาพต่างๆได้ ดังนั้น จึงควรตรวจสุขภาพทุก 6 เดือนเพื่อเช็คการทำงานของอวัยวะภายในและภายนอก จะช่วยให้รักษาได้ทันเวลาและมีประสิทธิภาพ

แชร์:

Author

w
creative

watcharin.c@deccogroup.com

contact@healthhub.com

Related posts